แม้ชีวิตของคนรุ่นใหม่จะหันไปนิยมการอยู่อาศัยบนคอนโดมิเนียมหรู ติดรถไฟฟ้า เดินทางสะดวก กันมากขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลาที่ต้องมีครอบครัว
แม้ชีวิตของคนรุ่นใหม่จะหันไปนิยมการอยู่อาศัยบนคอนโดมิเนียมหรู ติดรถไฟฟ้า เดินทางสะดวก กันมากขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลาที่ต้องมีครอบครัว ความฝันที่อยากจะได้อยู่ภายใต้ชายคาของ “บ้าน” ที่มีพื้นที่กว้างขวางมากกว่า ก็ยังคงเป็นเป้าหมายที่ทุกคนปรารถนาเสมอ และถึงแม้จะไม่ใช่บ้านเดี่ยว แต่ “ทาวน์โฮม” ก็ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี แต่ขึ้นชื่อว่าการซื้ออสังหาริมทรัพย์แล้ว ก่อนจะตัดสินใจซื้อก็จำเป็นต้องมีความรอบคอบให้มากที่สุด โดยประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนซื้อทาวน์โฮมในฝันนั้น มีดังนี้
ทาวน์โฮม กับ ทาวน์เฮ้าส์ ไม่เหมือนกัน
แม้จะไม่ได้มีคำจำกัดความที่ชัดเจนมากนัก แต่ทาวน์โฮมกับทาวน์เฮ้าส์ก็มีความแตกต่างกัน คือ ทาวน์โฮมจะเป็นโครงการบ้านในลักษณะของห้องแถว ที่ไม่ใช่บ้านเดี่ยว ที่มีขนาดใหญ่กว่าทาวน์เฮ้าส์ มีพื้นที่ส่วนกลาง อำนวยความสะดวก และเป็นระบบมากกว่า รวมถึงขนาดพื้นที่ใช้สอยในบ้านก็จะมีมากกว่าด้วย ดังนั้น ในการจะเลือกพิจารณาซื้อทาวน์โฮม จึงต้องมองภาพรวมของโครงการให้ดีว่า เหมาะสมกับการเป็นทาวน์โฮม ไม่ใช่ทาวน์เฮ้าส์ เพราะราคาที่ต้องจ่ายเพื่อครอบครองทาวน์โฮมนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะสูงกว่าทาวน์เฮ้าส์อยู่พอสมควร
จะใช้อยู่อาศัยหรือใช้เป็นออฟฟิศทำงาน
ฟังก์ชั่นการใช้งานของทาวน์โฮมในปัจจุบันนั้น ไม่ใช่เพียงแค่เพื่ออยู่อาศัยอย่างเดียว แต่ยังได้รับการดีไซน์ให้สามารถใช้เป็นออฟฟิศ สำนักงานได้ด้วย หรือที่เราคุ้นเคยเรียกกันติดปากว่า “โฮมออฟฟิศ” ซึ่งหากเป้าหมายในการซื้อทาวน์โฮมของเรามีแผนที่จะต่อยอดให้กลายเป็นที่ทำงานขนาดเล็ก มีพนักงานประมาณ 5-10 คน หรือเป็นการทำธุรกิจกันเองภายในครอบครัวแล้วล่ะก็ เราควรเลือกทาวน์โฮมที่ตอบโจทย์ฟังก์ชั่นของการทำงานตั้งแต่แรก ไม่ใช่เลือกรูปแบบที่เหมาะกับการอยู่อาศัย เพราะเมื่อคิดอยากจะใช้งานในเชิงออฟฟิศขึ้นมา จะต้องมาเสียเวลาขยับขยาย ซึ่งมีความลำบาก และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงตกเติมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากเราเลือกซื้อทาวน์โฮมในฟังก์ชั่นโฮมออฟฟิศตั้งแต่แรกนั้น จะมีราคาประหยัดกว่ามาก
พื้นที่หน้าบ้านทาวน์โฮมกว้างลึกเพียงพอหรือไม่
เพราะบ้านอาจไม่ได้ติดรถไฟฟ้าแบบคอนโด ดังนั้น พื้นที่ใช้สอยบริเวณหน้าบ้านสำหรับจอดรถ จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่ควรต้องพิจารณาให้ดี โดยหน้ากว้างส่วนใหญ่จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 4 เมตร แต่คำแนะนำคือควรมีพื้นที่มากกว่า 5 เมตรขึ้นไป เพราะยิ่งกว้างเท่าไรก็ยิ่งจอดรถได้มากขึ้น และเวลาที่ไม่มีรถจอด ก็ยังใช้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ด้วย ทั้งนี้ นอกจากหน้ากว้างจะสำคัญแล้ว ความลึกของหน้าบ้านก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหน้าบ้านกว้างไปก็จอดรถได้ไม่เต็มคันถ้ามีความลึกไม่พอ โดยกฎหมายกำหนดให้ความลึกขั้นต่ำอยู่ที่ 3 เมตร แต่ความลึกเท่านี้เหมาะจอดได้เพียงแค่รถยนต์ขนาดเล็กเท่านั้น ซึ่งหากครอบครัวเราเดินทางด้วยรถกระบะ หรือรถขนาดใหญ่ ก็จำเป็นต้องเลือกพื้นที่หน้าบ้านในโครงการทาวน์โฮมที่มีขนาดความลึกประมาณ 5 – 5.5 เมตรขึ้นไป
วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน
ในปัจจุบันมีโครงการทาวน์โฮมเกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งบางแห่งนั้นสร้างเสร็จอย่างรวดเร็ว ด้วยเพราะใช้วัสดุแบบสำเร็จรูป แต่บางโครงการก็เป็นรูปแบบของการก่ออิฐฉาบปูน โดยแม้การใช้ระบบก่อสร้างแบบผนังสำเร็จรูปจะมีความแข็งแรง แต่ก็ต้องตรวจสอบให้ดี เพราะคุณภาพของวัสดุมีความต่างกัน อาจก่อให้เกิดปัญหาภายหลังได้ รวมถึงบ้านที่ใช้ระบบสำเร็จรูปนั้น ยังไม่สามารถตกแต่งต่อเติมได้มากนัก มีข้อจำกัดที่มากกว่าบ้านที่สร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องถามตัวเองให้ดีว่า ต้องการบ้านแบบใดเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของเรามากที่สุด
มีพื้นที่ส่วนกลาง สาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกเหมาะสม
ด้วยเพราะความแตกต่างของทาวน์โฮมกับทาวน์เฮ้าส์อยู่ที่พื้นที่ส่วนกลาง ดังนั้น ในการพิจารณาเลือกซื้อทาวน์โฮมจึงต้องใส่ใจในส่วนนี้อย่างพิถีพิถัน ต้องสอบถามทางโครงการให้รอบคอบว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกใดให้บ้าง อาทิ สวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส รวมถึงระบบการรักษาความปลอดภัย ระบบการสื่อสาร น้ำ ไฟ ระบบการทำความสะอาด จัดเก็บขยะ ฯลฯ ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางและสารธารณูปโภคทั้งหมด ต้องมีขนาดและปริมาณที่สามารถรองรับการใช้งานของคนในโครงการได้อย่างเพียงพอด้วย รวมถึงยังต้องพิจารณาเรื่อง “ค่าส่วนกลาง” ด้วยว่าเหมาะสมกับสิ่งที่ได้รับหรือไม่
ทำเลที่ตั้งเหมาะสมตอบโจทย์การใช้ชีวิต
แม้จะไม่จำเป็นต้องใกล้รถไฟฟ้า เพราะคนซื้อบ้านส่วนใหญ่จะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเลือกซื้อทาวน์โฮมที่ถูกใจที่ไหนก็ได้ เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าบ้านซึ่งอยู่กันเป็นครอบครัวนั้น อยู่ไกลโรงพยาบาล ไม่อยู่ใกล้ทางด่วน ไม่ติดถนนใหญ่ อยู่ไกลจากออฟฟิศ และ โรงเรียน ฯลฯ ต่อให้เป็นบ้านที่ใหญ่แค่ไหน สวยงามแค่ไหน ก็ไม่สามารถตอบโจทย์ชีวิตให้มีความสุขได้อย่างแท้จริง รวมถึงแหล่งชุมชนแวดล้อม ก็ต้องเลือกทำเลที่มีความพร้อมมากพอ มีแหล่งช้อปปิ้ง มีตลาด ให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย สามารถหาของกินของใช้ได้อย่างไม่ลำบากด้วย
นอกจากความสวยงาม จำนวนห้อง และรูปแบบการดีไซน์ แล้ว การจะเลือกซื้อทาวน์โฮมสักหลัง มีสิ่งที่ต้องพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบอีกหลายปัจจัย เพื่อให้ตอบโจทย์ชีวิตได้มากที่สุด ซึ่งคำว่า “ตอบโจทย์ชีวิต” นั้น เพราะทาวน์โฮมเป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยที่ไม่ใช่ตอบโจทย์ชีวิตของการอยู่แบบเป็นส่วนตัว แต่เป็นการตอบโจทย์ชีวิตของการอยู่แบบครอบครัว ครอบครัวใหญ่ ไปจนถึงชีวิตแบบคนทำธุรกิจขนาดเล็ก ดังนั้น เงื่อนไข หรือ หลักเกณฑ์ที่จะมาใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อ จึงต้องคำนึงถึงความเป็นส่วนรวม คำนึงถึงคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ชายคาทาวน์โฮมเดียวกับเราให้มาก ไม่ว่าจะเป็น ลูก พี่น้อง ภรรยา หรือแม้แต่พนักงานในความดูแลในกรณีการใช้ทาวน์โฮมเป็นออฟฟิศ ซึ่งจะไม่เหมือนคอนโดที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า ที่ยึดเอาความสะดวกสบายของเราคนเดียวเป็นสำคัญได้ในการตัดสินใจเลือกซื้อ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง